[บทความรีวิวเกม] Overwatch เกมแอ็คชั่นสุดมันส์ฟอร์มยักษ์แห่งปีจากค่ายพายุหิมะ

Playulti 28 May 2016, 19:30:10
Review Games PC Online


สวัสดีเพื่อนๆชาว PlayUlti ทุกท่านค๊า...หายหน้าหายตาไปนานกับบทความรีวิวเกมจากอาเจ๊นัท ส่วนมากก็จะเน้นไปทางข่าวหรือบทความพวกเกม Steam เป็นหลักใช่ไหมละ วันนี้อาเจ๊นัทก็ขอหยิบเกมที่น่าสนใจและกำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ เรียกว่าฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองกับ “Overwatch” เกมแนว FPS ที่ผสมผสานลูกเล่นแบบ Multiplayer Online Battle Arena [MOBA] เอาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวจากค่าย Blizzard Entertainment ที่ตอนนี้ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำไมบทความรีวิวเกมนี้ถึงเกิดขึ้น!? เป็นเพราะว่ายังมีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่ยังสนใจว่าเกมนี้มันสนุกจริงๆหรือเป็นแค่กระแสของเกมช่วงครั้งช่วงคราวกันแน่ เอาล่ะงั้นลองไปอ่านรีวิวเกมนี้กันดูค่ะ


จุดเริ่มต้นแล้วการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ... 

ถ้าใครที่เป็นแฟนเกมในเครือ Blizzard Entertainment จะทราบกันดีว่าเกมแต่ละตัวที่พัฒนาขึ้นจะมีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น World of Warcraft เป็นเกมแนว MMORPG แฟนตาซีที่รวบรวมเนื้อราวทั้งหมดของโลก Warcraft เอาไว้ ( ยิ่งตอนนี้ภาพยนตร์เรื่อง Warcraft: The Beginning กำลังเข้าฉายด้วย ใครที่เล่นเกมนี้ต่างก็ไปดูเรื่องนี้กันเพียบ ), Diablo เป็นเกมแนว Hack And Slash สุดมันส์ที่ตอนนี้ดำเนินเนื้อเรื่องมาถึงภาค 3 กันแล้ว แถมดูท่าจะมีเนื้อเรื่องเสริมเข้ามาในอีกอนาคต, Hearthstone: Heroes of Warcraft เป็นเกมการ์ดที่ใช้ตัวละครหลักของเกม Warcraft มาจัดให้เป็นชุดการ์ดที่มีแนวทางการเล่นแตกต่างกันออกไป เป็นอีกหนึ่งเกมที่บ้านเราได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในบ้านเรา หรือ Heroes of the Storm เกมแนว Multiplayer Online Battle Arena [MOBA] ที่ได้รวบรวมตัวละครต่างๆจากซีรี่ย์ในเครือ Blizzard Entertainment มายำรวมกันกลายเป็นฮีโร่ที่จะบุกไปโจมตีฝั่งตรงข้าม แถมเกมนี้แตกต่างจากเกมอื่นๆตรงที่มีโหมดการเล่นที่หลากหลาย เป็นต้น



ตรงจุดนี้ทาง Blizzard Entertainment ได้เล็งเห็นว่าช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมากระแสเกมแนว Multiplayer Online Battle Arena [MOBA] ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าพวกเขายังคงพัฒนาเกมแนวนี้แบบเดิมๆ พวกเขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จทั่วที่ควร ทำให้ได้มีการวางแผนพร้อมกับประชุมว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเกมเพลย์ให้แตกต่างแต่ยังคงคอนเซ็ปต์ MOBA เอาไว้เหมือนเดิมละมันจะเป็นยังไง จนในที่สุดจุดเริ่มต้นของเกม Overwatch ก็ได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้พัฒนาเกมนี้กันอย่างลับๆ และลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งจนกระทั่งเมื่อปี 2014 ณ.งานเกมโชว์ประจำค่ายอย่าง “BlizzCon 2014” พวกเขาก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับปล่อยตัวอย่างแรกออกมาให้ได้ชมกัน ซึ่งกระแสตอบรับจากเกมเมอร์อยู่ในขั้นที่น่าพึ่งพอใจเป็นอย่างมาก



ในช่วงแรกที่พวกเขาได้เปิดตัวก็มีการประกาศว่าจะเปิดทดสอบตัวเกมช่วง Beta Test ภายในปี 2015 แต่ก็มีเพียงเกมเมอร์ที่มีชื่อเสียงหรือช่องชาแนลดังๆเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ในการทดสอบตัวเกม Overwatch ช่วงแรก จนกระทั่งปลายปี 2015 การทดสอบตัวเกมก็ได้ขยายสู่ผู้เล่นทั่วโลกมากขึ้น ทำให้บุคคลทั่วไปที่เฝ้ารอที่จะสัมผัสเกมนี้ก็ได้สัมผัสเกมนี้กันอย่างจริงๆจังๆเสียที แน่อนนว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด ด้วยรูปแบบเกมเพลย์ที่สนุก, ลื่นไหล และ เข้าใจไม่ยาก ทำให้มันตอบโจทย์เกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี Blizzard Entertainment รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาใหม่มันไม่ได้เสียแรงแม้แต่น้อย และนี่คือจุดเริ่มต้นของเกม “Overwatch”

ความน่าสนใจของเกมนี้อยู่ตรงไหน!?

อย่างที่บอกในตอนต้นว่าเกม Overwatch เป็นเกมแนว FPS ที่ผสมผสานความเป็น Multiplayer Online Battle Arena [MOBA] เอาไว้ด้วย จึงทำให้ตัวละครภายในเกมมีให้เลือกเล่นเยอะเลย ปัจจุบันตัวละครภายในเกมมีทั้งหมด 21 ตัวด้วยกัน โดยแบ่งออกไปทั้งหมด 4 สายด้วยกันได้แก่ Offense [สายโจมตี], Defense [สายป้องกัน], Tank [สายสนับสนุนแนวหน้า] และ Support [สายสนับสนุน] ตัวละครแต่ละตัวจะมีลูกเล่นที่แตกต่างกันออกไป และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการแก้ทางตัวละครอื่นๆได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดทีมและฝีมือผู้เล่นด้วยเช่นกันว่าจะดึงประสิทธิภาพของตัวละครนั้นๆออกมาได้เพียงใด และที่คาดไม่ได้เลยสำหรับค่ายเกม Blizzard Entertainment ก็คงหนีไม่พ้นเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เกม Overwatch ได้มีการปูเนื้อเรื่องของตัวละครเอาไว้ได้อย่างลงตัวในทุกๆตัว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเกมมีความเกี่ยวโยงและได้รับผลกระทบต่อกันเป็นลูกโซ่ ทำให้ไม่มีตัวละครใดที่มีเนื้อเรื่องพิเศษกว่าคนอื่น นอกจากนี้ทาง Blizzard Entertainment ยังมีการทำเป็นอนิเมะชั่นตอนสั้นๆออกมาให้ชมกันเป็นระยะๆ หรือ จะติดตามในรูปแบบ Comics ผ่านหน้าเว็บไซค์ก็ได้ด้วยเช่นกันค่ะ




ส่วนต่อมาที่อาจจะถูกใจเกมเมอร์หลายคนก็คือตัวเกมนี้จะเป็นการซื้อแบบผูกขาดไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นตัวเกมหรือไอเท็มภายในเกม มีสิ่งเดียวที่ตัวเกมเปิดขายก็คือกล่องสุ่มไอเท็ม กล่องนี้ผู้เล่นจะได้รับทุกๆ ครั้งที่ระดับตัวละครอัพ เจ้ากล่องนี้จะทำการสุ่มไอเท็มทุกอย่างภายในเกมตั้งแต่เงิน Gold, ชุดคอสตูมตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง, เสียงตัวละคร, สเปรย์ฉีดตามพื้น และ อื่นๆอีกเพียบ งานนี้บอกได้คำเดียวว่าใช้ดวงล้วนๆเลย บางคนเปิด 1 – 2 กล่องก็ได้ชุดคอสตูมระดับสูงมาใส่กันแล้ว แต่บางคนนี่สิ...ดวงจู๋เปิด 50 กล่องไม่ได้ของที่ต้องการก็มี 5 5 5+ แต่กล่องสุ่มไอเท็มที่วางขายภายในเกมราคาก็สูงใช้ได้เหมือนกันนะ 50 กล่องราคาพอๆกับซื้อเกม 1 ชุดเลยทีเดียว




รูปแบบเกมเพลย์มันแตกต่างจากเกมอื่นยังไง!?

มาถึงระบบเกมเพลย์กันบ้าง ด้วยความที่เป็นเกมแนว FPS ย้ำอีกทีว่ามันคือ “FPS” เกมเมอร์บางคนอาจจะไม่ถนัดมุมมองการเล่นแบบนี้สักเท่าไหร่ บางคนเล่นนิดๆหน่อยก็มีอาการเวียนหัวหรือคลื่นไส้กันแล้ว ( ไม่แปลกค่ะ บางคนเล่นเกมนี้ไม่ได้เลยจริงๆ ) ดังนั้นอาเจ๊นัทก็ต้องบอกไว้ก่อนว่ามันไม่สามารถปรับมุมมองเป็น TPS ได้เหมือนเกมอื่นๆ ภายในเกมมีตัวละครให้เลือกเล่น โดยจะแบ่งเป็น 4 สายอย่างชัดเจนคือ Offense [สายโจมตี], Defense [สายป้องกัน], Tank [สายสนับสนุนแนวหน้า] และ Support [สายสนับสนุน] ผู้เล่นแต่ละทีมสามารถเลือกตัวละครซ้ำกันได้ แต่การทำแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะอย่างน้อยก็ต้องมีตัวที่คอยสนับสนุนเพื่อนๆในทีมด้วยเช่นกัน ตัวเกมไม่ได้เป็นแบบ FPS ปกติที่ฆ่าเพื่อนับจำนวนครั้งที่ฆ่าฝ่ายตรงข้าม แต่เราจะชนะได้ต่อเมื่อทำภารกิจนั้นๆสำเร็จ ตรงนี้ผู้เล่นทุกคนภายในทีมต้องช่วยเหลือกันเพื่อให้ภารกิจของทีมสำเร็จ

ภารกิจของเกมนี้มีการแบ่งออกไปทั้งหมด 4 โหมดหลักๆผ่านฉากแผนที่ 12 ฉากด้วยกันได้แก่



Assault Mode - ภารกิจนี้ผู้เล่นแต่ละทีมจะมีหน้าที่ของตัวเองคือฝ่ายโจมตีจะบุกไปยังพื้นที่ที่กำหนดแล้วพยายามยึดที่มั่นจนกว่าจะครบเวลาที่กำหนด ส่วนอีกฝ่ายจะต้องป้องกันจุดที่มั่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายบุกเข้ามายึดได้ ในโหมดนี้จะมีจุดทั้งหมด 2 จุดด้วยกันคือ จุด A กับ จุด B ฝ่ายใดสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้สำเร็จเช่น ฝ่ายบุกสามารถยึดครบทั้ง 2 จุด หรือ ฝ่ายป้องกันสามารถต้านจนหมดเวลาได้ก็จะเป็นฝ่ายชนะไป



Control Mode - โหมดนี้จะคล้ายคลึงกับ Assault Mode เพียงแต่รูปแบบการเล่นจะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยค่ะ เพราะผู้เล่นทั้งสองทีมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจมตีหรือป้องกันจะต้องบุกไปยึดพื้นที่ที่กำหนดเอาไว้ให้ เพียงแต่การพื้นที่จะมีเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้น ฝ่ายใดสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จก็จะเป็นฝ่ายชนะแล้วได้รับคะแนน 1 แต้ม หลังจากนั้นจะต้องแข่งกันอีก 1 รอบ ถ้าทีมที่ชนะในรอบก่อนยังคงชนะในรอบนี้ก็จะถือว่าชนะอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้ามีการเสมอกันก็จะแข่งนัดที่ 3 เป็นรอบตัดเชือก



Escort Mode - ภารกิจนี้ผู้เล่นแต่ละทีมจะมีหน้าที่ของตัวเองคือฝ่ายโจมตีจะต้องพยายามเข็นรถไปถึงจุดเป้าหมายตามที่กำหนด โดยจะมีจุดพักเพื่อเพิ่มระยะเวลาของการเล่นให้มากขึ้น แต่ถ้าคุณไม่สามารถเข็นรถไปถึงเป้าหมายได้ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ในเกมนี้ไป ทางด้านฝ่ายป้องกันจะต้องยับยั้งไม่ให้ฝ่ายโจมตีเข็นรถไปถึงจุดเป้าหมาย เรียกได้ว่าใช้กลยุทธทุกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายชนะ ในช่วงแรกจุดเกิดของฝ่ายป้องกันจะอยู่ไกลพอสมควร ดังนั้นผู้เล่นจะต้องเซฟชีวิตตัวเองให้มากที่สุดอีกด้วย



Hybrid Mode - เป็นโหมดที่ผสมผสานลูกเล่นระหว่าง Assault Mode และ Escort Mode เอาไว้ด้วยกันนั้นเองค่ะ โดยผู้เล่นแต่ละทีมจะมีหน้าที่ของตัวเอง ฝ่ายโจมตีจะต้องบุกไปยึดจุดที่มั่นให้สำเร็จหลังจากนั้นให้เข็นรถไปถึงเป้าหมายตามที่กำหนด ซึ่งจะมีจุดพักเพื่อเพิ่มระยะเวลาจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ ถ้าเวลาหมดก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายก็ทีมคุณจะเป็นฝ่ายแพ้ทันที ทางด้านฝ่ายป้องกันมีหน้าที่เหมือนเดิมคือยับยั้งไม่ให้ฝ่ายโจมตีเข็นรถไปถึงเป้าหมาย ในช่วงแรกจุดเกิดของฝ่ายป้องกันจะอยู่ไกลพอสมควร ดังนั้นผู้เล่นจะต้องเซฟชีวิตตัวเองให้มากที่สุดอีกด้วย

สุดท้ายแล้วมันคุ้มค่าที่จะซื้อมาเล่นหรือเปล่า!? 

มาถึงช่วงสุดท้ายของบทความรีวิวนี้แล้วค่ะ หลายคนคงจะทราบกันแล้วว่าตัวเกมไม่ได้เปิดให้บริการในรูปแบบ Free-to-Play ผู้เล่นที่ต้องการจะเล่นจำเป็นต้องซื้อตัวเกมกันก่อน สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ $39.99 [เงินไทยก็ประมาณ 1,450 บาท] ซึ่งราคาอาจจะสูงสักหน่อยแถมตัวเกมก็เป็นเกมออนไลน์ที่เวลานี้ยังไม่มีโหมด Single-Player หรือ โหมดเนื้อเรื่องแต่อย่างใด ที่สำคัญฉากและโหมดเกมเพลย์ในเวลานี้ยังมีน้อยนิดมากจริงๆ ผู้เล่นอาจจะเบื่อก็ได้ ทั้งนี้ก็มีข้อมูลหลุดออกมาว่าทาง Blizzard Entertainment กำลังเตรียมอัพเดทตัวละครใหม่ในเร็วๆนี้ แถมจะอัพเดทสัปดาห์ละ 1 ตัวอีกด้วย แต่ทั้งนี้ข้อมูลนี้ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือนะคะ ที่สำคัญเลยเกมนี้จะเล่นสนุกก็ต่อเมื่อคุณมีเพื่อนเล่นด้วย หรือ มีหาทีมที่เล่นกันบ่อยๆก็ได้เหมือนกัน เพราะถ้าคุณเล่นคนเดียวบอกเลยว่ามันไม่สนุกเอาเสียเลย เพราะหลายๆครั้งคุณอาจจะเจอทีมที่เขาเล่นไม่เข้าขาหรือเหมาะกับคุณก็เป็นได้ แล้วก็จะจบลงด้วยหัวร้อนเปล่าๆ ใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อตัวเกมผ่านเว็บไซค์ Playpoint ได้ เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊กที่นี่ มีให้เลือกเล่นทั้งเวอร์ชั่น PC, PlayStation 4 และ Xbox One ( เซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวแยกกันนะคะ ) เข้าไปอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับราคาของเกมนี้ได้ที่นี่ คลิ๊กที่นี่ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าเว็บไซค์หลักได้ที่นี่ คลิ๊กที่นี่






กำลังโหลด...