The Messenger : แรงบันดาลใจจากเกมในตำนาน Ninja Gaiden

Metroidvania แนวเกมที่แฟนเกมหลายคนชื่นชอบ เพราะด้วยความที่มันเล่นเพลิน ไม่กินสเปคคอมพิวเตอร์ (หรือเครื่องคอนโซล) แถมในช่วงหลังๆนี้ เกมแนวนี้ก็ได้พัฒนาเพิ่มเติมลูกเล่น ให้มันสามารถเล่นได้ยาวนานมากขึ้น มีฉากที่หลากหลายให้เราค้นหาแทบจะไม่ต่างจาก Open World ในมุมมองด้านข้างเลย และวันนี้ทีมงาน PlayUlti จะนำเอาเกมแนวนี้มานำเสนอ หลังจากเล่นไปร่วม 10 ชั่วโมง ก็รู้สึกว่าไม่อยากให้ทุกคนพลาดเกมนี้จริงๆครับ นั่นคือ The Messenger เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Ninja Gaiden ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลยครับ

Pixel Graphics & Metroidvania

The Messenger เป็นเกมแนว 2D แอ็คชั่นมุมมองด้านข้าง โดยทีมพัฒนายืนยันว่าได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเกมนี้มาจากเกม Ninja Gaiden เกมคลาสสิคในตำนาน รูปแบบการเล่นจะเน้นการเดินลุยต่อสู้ และเปิดแผนที่ทั้งข้างบน หรือข้างล่าง รวมไปถึงสามารถย้อนกลับมาที่เก่าเพื่อเปิดเส้นทางลับได้อีกด้วย จึงเรียกได้ว่าเกมนี้แม้จะเป็นการเล่นแบบเดินข้าง แต่ก็มีพื้นที่ มีฉากอันหลากหลายให้เราได้สำรวจกันอย่างมากมาย และคุณจะเล่นมันไม่จบในเวลาเพีงแค่ 10 กว่าชั่วโมงนี้แน่นอน และกราฟิกที่ตัวเกมใช้ก็เป็นแบบ 16-Bit แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ตัวเกมยังสามารถแสดงสีสันและภาพออกมาได้สวยงามด้วย

Key Features

นอกจากระบบการต่อสู้จะเข้าใจง่ายแล้ว ตัวเกมยังมีค่อนข้างมีความแฟร์สูงมากในการเล่น เพราะศัตรูส่วนมากจะสามารถจัดการได้ด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง (ยกเว้นระดับบอส) รวมไปถึงในแผนที่ต่างๆยังมีพื้นที่ลับที่เราต้องไปเปิดเพื่อสะสมไอเทมมาอัพสกิล หรือความสามารถของตัวละครตั้งแต่นินจาเดินลุยทั่วไป ไปจนถึงมีเครื่องร่อน พุ่งใต้น้ำได้ได้ เกาะผนังได้ เป็นต้น ซึ่งความสามารถพวกนี้จำเป็นจะต้องเก็บ Shard มาปลดล็อคไปเรื่อยๆ แต่เมื่อปลดล็อคความสามารถตัวละครเพิ่มแล้ว ศัตรูที่เราเจอ ฉากที่เราต้องลุยก็จะมีอุปสรรคที่หลากหลายมากขึ้นตามไปด้วย

ระบบอัพเกรดสกิล

อย่างที่เกริ่นไว้ด้านบน ในการตะลุยฉากต่างๆ เราจะมีไอเทมลูกไฟสีเหลืองๆ (ขอเรียกว่า Shard) ให้เก็บอยู่เรื่อยๆ โดยเจ้า Shard นี้เราสามารถเก็บสะสมไปปลดล็อคสกิลความสามารถต่างๆให้กับตัวละครของเรา ซึ่งจะอัพอะไรก่อนหลังก็แล้วแต่ความสะดวกเลย แต่หลังๆมาเราก็จะสามารถปลดล็อคได้ครบทั้งหมดอยู่ดีครับ ซึ่งสกิลหลักๆที่จำเป็นต้องมีก็คือการเกาะผนัง เครื่องร่อง สลิงดึงตัว เพราะหลังๆ ด่านต่างๆมันจะมีอุปสรรคที่หลากหลายมาก เราต้องมีตัวช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้น แต่ตัวเกมเขาก็กะเวลามาพอดีอยู่แล้วว่าถ้าเราถึงฉากนี้ เราจะปลดล็อคสกิลได้ประมาณไหน

เปิดพื้นที่ลับเพื่อสะสมไอเทมเพิ่ม

ในเกมจะมีหีบสมบัติหีบนึงที่ต้องใช้ Power Seal (เหรียญสีเขียวใหญ่ๆ) โดยเจ้า Power Seal มันจะอยู่ในจุดลับของแผนที่โซนนั้นๆ วิธีการหาก็แค่ใช้ระบบแผนที่ (ที่จะได้หลังจากผ่านตัวเกมไปสักครึ่งทาง) แล้วมันจะแสดงแผนที่ให้เราเห็น แล้วก็มุดไปเอาได้เลย จนตอนนี้ผู้เขียนก็ยังเก็บได้เพียง 23 เหรียญเท่านั้น ทำให้ยังไม่รู้ว่า ไอ้การเปิดหีบเนี่ยมันจะได้อะไรบ้าง เอาไว้เปิดได้ครบแล้วจะมาอวดให้ชมกันนะ (ฮา)

ระบบการต่อสู้ที่ลื่นไหล และใช้ฝีมือจริงๆ

ต้องบอกว่าผู้เขียนค่อนข้างชื่นชอบระบบการต่อสู้ของเกมนี้มาก เพราะมันทำออกมาได้ลื่นไหล แทบจะไม่ติดขัด และตอบสนองต่อการควบคุมได้ดีมากๆ ด้วยทักษะต่างๆของตัวละคร ผสมกับระบบคอมแบทที่ทำออกมาได้ดีมาก เกมนี้จึงทำให้เราติดหนึบชนิดวางจอยไม่ลงเลยทีเดียว รวมไปถึงการต่อสู้แบบ Boss Fight ที่ไม่ได้ยากจนเกินไป จับจังหวะไม่กี่ทีก็รู้เรื่องแล้ว นอกนั้นจะเอาชนะได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการเล่นบ่อยๆจนรู้จังหวะเท่านั้น

โดยรวมแล้ว The Messenger เป็นอีกหนึ่งเกมสไตล์ Metroidvania ที่สนุกมากจริงๆ ไม่ว่าจะกราฟิก เกมเพลย์ รวมไปถึงดนตรีประกอบติดหูมากๆ ใครที่มองหาเกมเล่นที่ใช้เวลากลางๆ (มองว่าถ้าจะเล่นให้จบครบทุกอย่างจริงๆ อาจจะสัก 20 ชั่วโมงขึ้นไป) ในการเล่น ก็ไปจัดเกมนี้มาเป็นเจ้าของกันได้เลยครับ ที่สำคัญเกมนี้วางจำหน่ายมาได้ครึ่งปีแล้ว รอดูช่วงเทศกาลลดราคาก็ได้ครับ และโอกาสหน้าเราจะนำเกมอะไรมาแนะนำให้รู้จักกันอีกอย่าลืมกดไลค์ กดติดตามพวกเราไว้นะครับ!