[Review] Cabal Online จากบ้านเก่าสู่บ้านใหม่และความทันสมัยที่ไม่ตกยุค

Playulti 30 Dec 2017, 19:44:00
ข่าวเกม PC

หากย้อนไปในช่วงเวลาสักสิบปีก่อนที่เกมออนไลน์กำลังบูมมากในบ้านเรา หลายคนอาจจะนึกถึงเกมชื่อดังต่างๆมากมาย แต่สำหรับผู้เขียนเองนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุดคือ Cabal Online นั่นเอง ด้วยระบบหลายๆอย่างที่ลงตัว แม้จะข้ามยุคข้ามสมัยมาปัจจุบัน Cabal Online ก็ยังคงเป็นเกมที่เล่นได้แบบไม่เบื่อ และท้ายที่สุดด้วยเหตุผลต่างๆนาๆทำให้ผมต้องเลิกเล่นเกมนี้ไป และเนื่องในโอกาสที่เกมนี้ได้ย้ายบ้านจากผู้ให้บริการเก่ามาเป็นผู้ให้บริการใหม่อย่าง EXE ผมก็ขอกลับไปเล่นมันอีกสักครั้ง และนำมาทำเป็นรีวิวให้เพื่อนๆชาวเกมเมอร์ผู้ยังคิดถึงวันวานของเกมนี้ได้คิดถึงกันอีกครั้ง ถ้าพร้อมแล้ว ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของคาบาลออนไลน์กันเลยครับ 


Cabal Online เป็นเกมแนว MMORPG แบบ Old School อะ อย่าเพิ่งงงกัน โอลสคูลหมายถึงเกมที่มีระบบเก่าแก่ดั้งเดิม ซึ่งในเกมนี้ก็คือการที่เราจะต้องคลิกล็อคเป้าหมายก่อนแล้วถึงจะโจมตีหรือซัดสกิลใส่ได้ สำหรับเกมออนไลน์แนวปัจจุบันที่แทบจะเป็นเกมแอ็คชั่นแบบ Non-Target กันเกือบหมดแล้ว การที่บ้านเรายังมีเกมแนวนี้ออกมาให้ได้เล่นอยู่นั้นนับว่าเป็นเรื่องดี และน่าคิดถึงไม่น้อย แต่มันอาจจะไม่ถูกจริตคอเกมยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและว่องไวก็เป็นได้ 

ภายในเกมจะมีอาชีพทั้งหมดถึง 8 อาชีพด้วยกัน โดยแบ่งเป็นสายดาบ Sword Type 5 อาชีพ และสายเวทยมนต์ Magic Type อีก 3 อาชีพซึ่งสองอาชีพหน้าใหม่ที่อัพเดทเข้ากันมาสักระยะแล้วนั่นคือ Gladiator และ Force Gunner นั่นเอง โดยแต่ละอาชีพก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เพื่อทำหน้าที่ทดแทนกันและกันได้ในยามที่ต้องจับกลุ่มกันลงปาร์ตี้ ทำให้ทุกอาชีพมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ความหนักใจก็จะมาตกอยู่ที่เราแทน เพราะเล่นอาชีพอะไรก็น่าสนใจไปซะหมด แหมมม อย่างจะเปิดได้ 8 จอ เล่น 8 อาชีพพร้อมกัน (ฮา) ถัดจากอาชีพเกมนี้ก็มีระบบอีกมากมายที่เกม MMORPG ทั้งหลายมี ไม่ว่าจะเป็นระบบดันเจี้ยน ระบบยานพาหนะ ระบบสัตว์เลี้ยง และอื่นๆอีกมากมาย ที่เรากำลังจะพาไปทำความรู้จักกัน เอาล่ะตามมาดูระบบของเกมกันเลย!




สำหรับเกมออนไลน์เกมอื่น กว่าจะมีการเลื่อนขั้นก็จะแบ่งช่วงนานหน่อย อาจจะ 20-40 เลเวล แต่สำหรับคาบาลนั้นตัวเกมได้มีระบบการอัพเกรดตัวละครทุก 10 เลเวล ซึ่งเงื่อนไขการรับเควสท์อัพเกรดตัวละครก็ต้องมีค่าสเตตัสที่ถึงตามที่ระบบกำหนดด้วย ถือว่าเป็นระบบคลาสสิคมากๆเลยทีเดียว ในการอัพเกรดตัวละครแต่ละครั้งก็เราก็จะปลดล็อคทักษะใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นระบบคอมโบ ระบบ Battle Mode , ระบบ Aura ซึ่งเป็นบัฟเพิ่มค่าสถานะให้ตัวละครเราในช่วงเวลาหนึ่ง และเมื่ออัพสูงขึ้นไปจะสามารถกดใช้ซ้อนทับกันได้ และที่สำคัญการปลดล็อคบางช่วงเลเวลจะทำให้เราขี่ยานพาหนะอย่าง Astral Board หรือ Astral Bike ได้อีกด้วย

ทุก 10 เลเวล ตัวละครจะมีเควสท์เลื่อนขั้น ปลดล็อคความสามารถ!


นี่เรียกว่าเป็นระบบไฮไลท์ของเกม Cabal เลยทีเดียว เพราะเป็ฯระบบสำคัญของเกมที่จะทำให้เราโจมตีศัตรูได้รุนแรงขึ้น และที่สำคัญคือมันจะทำให้การโจมตีของเราไม่ติด Miss หรือ Block ทำให้กำจัดศัตรูได้ไวขึ้น ซึ่งมันจะส่งผลให้เราเก็บเลเวล หรือเคลียร์ดันเจี้ยนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยระบบนี้จะปลดล็อคก็ต่อเมื่อเราอัพเกรดตัวละครไปถึงขั้นที่ 3 ตอนเลเวล 30 แล้ว วิธีการกดคอมโบก็ง่ายมาก เพียงคุณเลือกเป้าหมายจากนั้นกดเริ่ใช้สกิลคอมโบ เมื่อเกจคอมโบปรากฎขึ้นมา เพียงคุณกดสกิลที่จัดเรียงไว้ ให้ถูกจังหวะ โดยกดสกิลให้อยู่ตรงช่องที่ 2 ถ้าชิดขอบเส้นที่ 2 ก็จะเป็นสีแดง Excellent ห่างหน่อยก็สีส้ม Good หรือถ้าไกลเกินเอื้อมเลยก็ Bad แต่ถ้ากดตอนหลอดสีวิ่งอยู่ช่องที่ 1 หรือเลยไปช่อง 3 เยอะแล้วจะเป็น Bad แทน

เมื่อเริ่มใช้สกิลคอมโบก็จะมีหลอดคอมโบขึ้นมา ให้กดให้ตรงจังหวะนะ!

คอมโบยิ่งสูงหลอดบังคับกดก็ยิ่งเล็กลง
ซึ่งความสนุกของระบบคอมโบนี้มันอยู่ตรงที่หากเรานำไปใช้กับมอนสเตอร์ประจำแมพทั่วไป มันจะตายง่ายมากเพราะความแรงที่เพิ่มขึ้น ทีนี้คอมโบของเราจะถูกตัดจบก็ต่อเมื่อเราคลิกเลือกเป้าหมายใหม่เพื่อต่อคอมโบไม่ทัน ดังนั้นความท้าทายเวลาใช้ในแมพทั่วไปคือการเลือกเป้าหมาย เปลี่ยนเป้าหมายให้ทัน ซึ่งก็ยากหน่อยเพราะบางทีมันแรงจัด มอนสเตอร์เกิดไม่ทันก็ตายหมดแมพไปแล้ว ดังนั้นคอมโบจะมีประโยชน์ขั้นสูงสุดเมื่อเราใช้ในดันเจี้ยนใหญ่ๆที่บอสเลือดสูงๆนั่นแหละ แต่ถึงอย่างนั้นกดเข้าจริงๆก็จะไปหลุดคอมโบที่ 21 ขึ้นไป เพราะหลอดมันเล็กกระจิ๊ดเดียว

ว้า วืดคอมโบ 7 Kill เอง

เกริ่นๆเรื่องความหลากหลายของอาชีพกันไปแล้ว มาดูแบบลึกลงไปอีกหน่อยกันบ้าง จุดเด่นของแต่ละสายอาชีพที่มีจะเห็นได้ชัดเจนมากตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่จะมีบางตัวที่ไปเด่นในช่วงกลางเกมแทน ซึ่ง 8 อาชีพนี้มีใหม่มาอีก 2 นั่นคือ Force Gunner และ Gladiator ที่ผู้เขียนยังไม่เคยลองเล่น ส่วนที่เหลือจะมีจุดเด่นตามนี้
  • Warrior จะเป็นตัวทำดาเมจหลักเลยทีเดียว เพราะสกิลและพลังโจมตีด้านกายภาพที่สูงมาก รวมไปถึงมีบัฟเพิ่มความแรงให้ตัวเองเข้าไปอีก เรียกได้ว่าเป็นตัว Damage Dealer ประจำทีมของฝั่งกายภาพ แต่มีข้อเสียตรงโจมตีได้ค่อนข้างช้าเลยทีเดียว

  • Blader ตัวทำดาเมจประจำทีมอีกคนที่เน้นความรวดเร็วขึ้นมา จุดเด่นคือสกิลของสายนี้จะออกคริติคอลค่อนข้างบ่อยมาก และแน่นอนดาบคู่มันเท่กว่าใครๆเขาอยู่แล้ว แต่มีข้อเสียคือตัวบางไปหน่อย ลุยในดงมอนสเตอร์นานๆไม่ค่อยจะได้

  • Wizard หาก Warrior เป็นตัวทำดาเมจหลักฝั่งกายภาพแล้ว Wizard ก็จะเป็นฝั่งเวทย์มนต์ ข้อดีคือสกิลหมู่เยอะสุดๆ แถมดาเมจแรงทะลุโลกมากๆ ส่วนข้อเสียก็คือตัวบางยิ่งกว่า Blader เสียอีก ที่สำคัญแพทช์ปัจจุบันนี้เขาหันมาใช้ไม้เท้าแทน Orb แล้วด้วย!

  • Force Archer สายอาชีพนี้โดดเด่นตรงพลังโจมตีระยะไกลที่มีความแรงมากๆ แม้ไม่เท่า Wizard แต่ก็ได้เปรียบเรื่องระยะแทน แถมยังเป็นอาชีพที่มีสกิลบัฟเยอะแยะมากมายอีกด้วย ที่สำคัญยังมีสกิลที่โดดเด่นมากๆอย่าง Heal เปรียบประหนึ่งซัพพอร์ทประจำทีมเลยทีเดียว

  • Force Shielder หากอยากอึดด้วย แรงด้วยต้องสายนี้ Force Shielder เป็นสายที่มีพลังชีวิตและพลังป้องกันสูงมากๆ แต่ยังไม่พอ! สกิลของอาชีพนี้ยังเน้นการโจมตีเป็นกลุ่มใหญ่ๆ และสตั๊นรอบตัวได้อีก เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ

  • Force Blader สายอาชีพลูกผสมระหว่างดาบและเวทย์ ทำให้มีจุดเด่นจุดด้อยอยู่ตรงกลาง ค่อนข้างสมดุล สกิลก็จะ
    เป็นการผสมผสานกันระหว่างสายดาบและเวทย์ แต่ที่เด๋นจัดเลยคือมีสกิลดีบัฟ หรือลดความสามารถของศัตรูลง ไม่ว่าจะเป็นลดพลังป้องกัน ลดต้านทานเวทย์ ลดพลังโจมตีเป็นต้น เป็นอีกอาชีพที่เด่นในดันเจี้ยนไม่พอ ยังเด่นในด้านสู้กับผู้เล่นด้วยกันเอง (PVP) อีกด้วย



สองอาชีพล่าสุดอย่าง Gladiator และ Force Gunner
จะเห็นได้ว่าทุกอาชีพมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปตามสไตล์ของอาชีพตัวเอง ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกอาชีพอะไรเราก็สามารถเป็นตัวสำคัญของปาร์ตี้ได้อยู่ดีไม่ต้องกลัวจะเหงานะจ๊ะ ส่วนตัวผู้เขียนเล่น Force Archer สนุกมากๆ ว่างๆก็ไล่แจกบัฟให้คนในเมืองด้วยละ เป็นคนใจดี


ใครที่คิดว่าเกมนี้เลเวลสูงจะได้เปรียบละก็คิดผิดนะครับ เพราะเกมนี้มีสิ่งที่เรียกว่าเลเวลสกิลและ Skill EXP อยู่ ซึ่งเมื่อมันสูงขึ้นจะทำให้เราเรียนสกิลใหม่ๆได้ ไม่ว่าจะเป็นสกิลโจมตีหรือบัฟ โดยแพทช์เวอร์ชั่นปัจจุบันนี้ไม่ต้องเก็บแยกสายดาบและสายเวทย์แล้ว ใช้ร่วมกันได้เลย และมีวิธีเก็บที่ง่ายยิ่งกว่านั่นคือการตีหุ่นฟางที่อยู่หน้าเมืองต่างๆของทุกเมืองนั่นเอง โดยแต่ก่อนนั้นเราจะมีลิมิตการตีหุ่นฟางนี้ได้เพียง 25% ของ Max Level ในระดับนั้นๆ (ยกตัวอย่างเช่นเราเก็บเลเวลสกิลถึงขั้น Expert แล้ว ใช้ 100 เลเวลในการเลื่อนขั้นไป A.Expert เราก็จะตีหุ่นฟางเก็บเลเวลสกิลได้ถึงเลเวล 25 เท่านั้น) แต่ในปัจจุบันระบบนี้ก็นำออกไปเช่นกัน ดังนั้นเราจะเก็บเลเวลสกิลจนตันตั้งแต่เลเวลยังน้อยๆเลยก็ทำได้

หุ่นฟางเก็บเลเวลสกิลที่คนมักมาใช้บริการกันเป็นประจำ

สกิลยิ่งสูง ก็ยิ่งเรียนสกิลได้เยอะ
แต่ก็อย่าลืมล่ะว่าระดับถึงยังไม่พอ เราต้องเสียเงินซื้อ Skill Book และอัพเลเวลสกิลด้วยเงินอีกจำนวนหนึ่งด้วยนะ ดังนั้นเราก็เลือกได้ว่าเราจะทำเควสท์เนื้อเรื่องไปเรื่อยๆเพื่อเก็บเงิน (และบางเควสท์ก็ได้ Skill Book ฟรีด้วย ไม่ต้องเสียเงิน) หรือจะปั่นเลเวลสกิลก่อนแล้วค่อยมาตามหาเงินเก็บทีหลังก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าอยากเก่งละก็ อย่างไรก็ตามก็ต้องมามุ่งมั่นเก็บเลเวลสกิลกันนะครับ

เงินไม่พออัพ T-T
นอกจากนั้น เมื่อเราเรียนสกิลจนถึงระดับหนึ่งแล้วจะพบว่าช่องเรียนมันเต็ม ซึ่งเราสามารถกด - ในหน้าต่างสกิลเพื่อลดขั้นเลเวลสกิลลงได้ แล้วเราจะได้แต้มสกิลกลับคืนมาด้วย และเมื่อเลเวลสกิลเหลือ 1 แล้วยังกดลบอีก ก็จะถือว่าเป็นการลบสกิลนั้นออกไปนั่นเอง ยิ่งสกิลเป็นระดับสูง ค่าลบก็ยิ่งแพงนะจ๊ะ ก่อนเรียนอะไรก็คิดให้ดีๆเสียก่อนล่ะ

ค่าลบกับค่าเรียนนี่อำมหิตพอๆกันเลย..


เมื่อเราเลื่อนขั้นตัวละครช่วงเลเวล 10 20 และ 50 เรียบร้อยแล้ว เรายังจะได้ Battle Mode ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดเด่นของเกมเลยทีเดียว ซึ่ง Aura Mode และ Battle Mode ขั้นแรกก็เหมือนกับบัฟทั่วไป แต่ทีเด็ดมันอยู่ที่ขั้น 2 ที่จะเปลี่ยนอาวุธเราให้เป็นอีกแบบหนึ่ง และปรับรูปแบบการโจมตีปกติรวมไปถึงสกิลที่ใช้ได้ในช่วงเวลานั้นด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วโหมดนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กัน เพราะเมื่อกดใช้แล้วมันจะใช้สกิลคอมโบไม่ได้ ทำให้ดูไร้ค่าไปเยอะเลย กว่าจะใช้ Battle Mode ร่วมกับคอมโบสกิลได้ก็ต้องเลเวลสูงๆโน่นเลยทีเดียว

Aura Mode ธาตุไฟที่แสดงสัญลักษณ์ธาตุออกมาชัดเจน

Battle Mode 1 ที่มือมีแสงและบวกค่าสถานะเฉยๆ
Battle Mode 2 คือสุดยอดสกิลขั้นเทพที่นิยมใช้กัน เพราะมันจะเปลี่ยนรูปร่างอาวุธภายนอกยกตัวอย่างเช่นสกิล Battle Mode 2 ของสายอาชีพ Force Archer ที่พอกดใช้ Battle Mode 2 แล้วจะเปลี่ยนอาวุธจากธนูเป็นปืนคู่สุดเท่ แถมยังล็อคเป้าหมายได้สองเป้าพร้อมกัน (ดูจากหลอดเลือดข้างบนที่มีสองฝั่งในภาพที่ 2) รวมไปถึงมีสกิลพิเศษที่ใช้งานได้เฉพาะตอนอยู่ในโหมดนี้อีกด้วย ถือเป็นบัฟเสริมแกร่งขั้นเทพ ที่เอาไว้เน้นเคลียร์มอนสเตอร์เร็วๆหรือสู้กับบอสก็ได้ครับ



เด็ดจริงต้อง Battle Mode 2 ! เปลี่ยนทั้งอาวุธและรูปแบบโจมตี!
และนี่คือระบบหลักๆของ Cabal Online ที่บอกเลยว่าแม้ตัวเกมจะมีอายุมามากกว่าสิบปีแล้ว แต่ตัวเกมก็ยังเล่นสนุกแบบไม่ตกยุค ซึ่งจริงๆแล้วตัวเกมยังมีอะไรมากมายให้ผู้เล่นทำได้มากกว่านี้ ทั้งการคราฟท์ของ การ PVP การลุยดันเจี้ยนใหญ่ ซึ่งถ้าเขียนหมด คิดว่าหน้าเว็บคงแสดงผลไม่พอเป็นแน่แท้ T-T เอาไว้โอกาสหน้าเราจะมาลงลึกกันในส่วนอื่นๆกันต่อนะครับ ส่วนใครที่กำลังมองหาเกมออนไลน์แนว MMORPG เล่นสนุกๆแบบเล่นเอง ลุยเอง ไม่ต้องมีระบบออโต้ให้เรารู้สึกดูเหมือนว่าเรากำลังดูเกมไม่ใช่เล่นเกม Cabal Online คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ผมภูฒิใจเสนอมากๆ หากใครสนใจจะดาวน์โหลดตัวเกมก็เชิญกดลิงค์นี้ เพื่อดาวน์โหลดตัวเกม https://cabal.exe.in.th/news/Download_Client แล้วมาสนุกกันในโลก Cabal นะครับ ส่วนตัววันนี้ผู้เขียนขอไปเก็บเลเวลต่อก่อน โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีครับผม!



กำลังโหลด...