![[Review] Living the Game: สัมผัสวิถีชีวิตโปรเกมเมอร์ที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่คนไม่เล่นเกมก็ดูได้ [Review] Living the Game: สัมผัสวิถีชีวิตโปรเกมเมอร์ที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่คนไม่เล่นเกมก็ดูได้](/static/attachment/2018/5/18/attach-1529318839134.jpg)
“เวลาเล่นเกม สมควรจะต้องสนุกไม่ใช่หรอ?”
Living the Game เป็นภาพยนร์ประเภทสารคดี ความยาว 90 นาที ที่กำกับโดย ทาคาโอะ โกวสึ แต่อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีเพียงเพราะคำว่าสารคดี เพราะ "วิถีแห่งเกม" นี้ ชวนติดตามจนรู้สึกว่า เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่นั่งอยู่ในโรงภาพยนต์นั้นไม่ได้นานเลย
![[Review] Living the Game: สัมผัสวิถีชีวิตโปรเกมเมอร์ที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่คนไม่เล่นเกมก็ดูได้ [Review] Living the Game: สัมผัสวิถีชีวิตโปรเกมเมอร์ที่อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่คนไม่เล่นเกมก็ดูได้](/static/attachment/2018/5/18/attach-1529319176357.jpg)
ทาคาโอะได้นำเสนอวิถีชีวิตและมุมมองของโปรเกมเมอร์ 5 คน ของเกม Street Fighter เกมแนวไฟท์ติ้งที่โด่งดังที่สุดของโลก ได้แก่ อุเมฮาร่า ไดโกะ, โมโมจิ ยูสุเกะ, จัสติน หว่อง, Luffy และ GamerBee ที่ล้วนแต่มีทัศนะต่อการเล่นเกมและใช้ชีวิตที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางคนเล่นเพื่อคนดู บางคนเล่นเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น บางคนเลือกเส้นทางที่มั่นคง และบางคนสร้างความมั่นคงขึ้นจากการเล่นเกม ช่วงชีวิตวัยเด็กของแต่ละคน วัฒนธรรมในแต่ละประเทศที่ต่างกัน และแรงผลักดันที่ต่างกันออกไป ในการที่ทำให้พวกเขาพยายามพื่อจะคว้าชัยชนะมาให้ได้ ผู้กำกับทาคาโอะค่อยๆพาเราเดินทางจากวันที่ฝึกซ้อม สู่เวทีการแข่งขันต่างๆ ที่ซึ่งทุกสิ่งที่โปรเกมเมอร์แต่ละคนทุ่มเทมาจะถูกตัดสิน และสำหรับบางคน มันหมายถึงชีวิตและอนาคตแม้จะมีการนำเสนอโปรเกมเมอร์ถึง 5 คน ทว่าจุดที่มีอิมแพ็คที่สุดของสารคดีเรื่องนี้ คือเรื่องราวของโมโมจิ ชายหนุ่มที่ทุ่มเทสุดชีวิต เพื่อจะไล่ตามให้ถึงจุดที่ตำนานอย่างไดโกะยืนอยู่ เรื่องราวของเขาสามารถทำให้ผู้ชมเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่า วิถีชีวิตของคนที่เล่นเกมเป็นอาชีพนั้น ไม่ได้สวยหรูเหมือนที่หลายคนอาจวาดฝันเอาไว้ เมื่ออยู่ในจุดที่การเล่นเกมไม่ได้ทำเพื่อความสนุกอีกต่อไป แต่เป็นการทำเพื่อที่จะได้เงินมาเลี้ยงชีวิต สารคดีสามารถนำเสนอความกดดันของตัวโมโมจิออกมาได้เป็นอย่างดี ผ่านคำพูด และการกระทำที่เขาปฏิบัติต่อ โชโกะ แฟนสาวของเขา “ต้องเล่นเพื่อชนะสิ ไม่ใช่เพื่อสนุก” - โมโมจิ -นอกจากนั้นแล้ว ผู้กำกับทาคาโอะ ได้พาเราไปสัมผัสช่วงเวลาที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานของวงการเกมตลอดกาล อย่าง Evo Moment #37 ไดโกะซึ่งพลังชีวิตเหลืออยู่เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ สามารถพลิกกลับมาเอาชนะ จัสติน หว่อง โดยการ Parry ท่า Super Combo ที่เร็วจนแทบจะไม่มีทางปัดป้องได้ แต่เขากลับทำได้ และนั่นทำให้ไดโกะสามารถพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะ และกลายมาเป็นตำนานจนถึงปัจจุบัน อะไรคือเบื้องหลังของตำนาน? ไดโกะคิดอะไรอยู่ในช่วงเวลาที่ใครต่อใครก็คิดว่าเขาจะแพ้? Living the Game จะพาเราสู่คำตอบนั้น โดยสรุปแล้ว Living the game เป็นสารคดีที่นำเสนอวิถีชีวิตของนักเล่นเกมมืออาชีพอย่างที่ดูแล้วเข้าใจได้ง่าย มีทั้งการสอดแทรกจังหวะฮาๆ และเนื้อหาที่ทำให้ลุ้นและอินไปกับเรื่องราวได้ไม่ยาก การตัดต่อลำดับเรื่องราวได้ชัดเจน ดังนั้น หากคุณต้องการเข้าไปดูเพื่อหวังจะได้เทคนิคการเล่นเกมมากมาย ก็คงจะต้องผิดหวัง แต่ถ้าเป็นคนที่เล่นเกม คนที่ชอบดูกีฬา E-sport หรือกระทั่งบุคคลทั่วไป Living the Game ก็เป็นสารคดีที่น่าตีตั๋วเข้าไปชมเรื่องหนึ่ง เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ชีวิตของคนเล่นเกม แต่เป็นเรื่องราวของคนที่ต่อสู้และทุ่มเททั้งชีวิตในสิ่งที่ตัวเองรัก ดังนั้นใครที่รู้สึกท้อกับการทำตามความฝัน หรือคิดว่าตัวเองพยายามแล้วแต่ก็ยังล้มเหลว สารคดีเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณประทับใจ จนเมื่อดูจบอาจจะต้องกลับมาตั้งคำถามว่า เราพยายามเพื่อสิ่งที่รักมากพอแล้วหรือยัง “พ่อเคยบอกผมว่า ไม่จำเป็นต้องเก่งไปทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียว อย่างเดียวที่จะไม่แพ้ใคร”