เล่าประสบการณ์หลังทดสอบ Elden Ring รอบ Network Test ตำนานบทใหม่ของเกมสไตล์ Souls

Makee 18 Nov 2021, 16:58:00
Review Game Console


แฟนเกมซีรี่ส์ Souls หลายๆ คนติดตามผลงานชิ้นใหม่ของ From Software กันอย่างใจจดใจจ่อ กับ Elden Ring ตำนานบทใหม่ จากผู้สร้าง Dark Souls และการเขียนบทโดย George R.R. Martin ที่จะพาไปสัมผัสกับโลกสุดดาร์กแฟนตาซี ที่กว้างใหญ่และมีอะไรให้ท้าทายมากกว่าเดิม และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมนายมากี ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบรอบ Network Test ของเกม Elden Ring โดยได้รับเชิญจากทาง Bandai Namco และ Sicom Amusement ให้เข้าร่วมทดสอบเกมนี้ และนี่คือการบอกเล่าประสบการณ์ของรอบทดสอบรอบนั้นกันครับ


สำหรับรอบ Network Test นั้นคือรอบทดสอบที่มีให้เล่นเฉพาะบนเครื่อง PlayStation 5 เท่านั้น และแบ่งรอบในแต่ละวันอย่างชัดเจน นั่นหมายความว่า ผู้เข้าร่วมทดสอบจะมีเวลาเล่นจำกัดในแต่ละช่วงเวลานั่นเอง เมื่อเปิดเกมมาตอนแรก สิ่งที่สะดุดตาผมก่อนเลยคือ ตัวเกมที่ให้ทดสอบนั้น มาในรูปแบบของภาษาไทย อ่านง่ายเข้าใจง่ายมากๆ เมื่อเข้าสู่เกมจะมีแต่ละอาชีพให้เลือก โดยอาชีพเหล่านี้จะมีอาวุธที่ใช้งานไม่เหมือนกัน



เมื่อเลือกอาชีพเสร็จ ตัวเกมก็จะพาเข้าสู่การสำรวจของเกม โดยเกมนี้จะเป็นในรูปแบบให้ผู้เล่นเข้าไปสำรวจตรงไหนก็ได้ เปิดทางให้เข้าไปสำรวจกว้างกว่า Dark Souls เยอะ แต่ตัวเกมไม่ถึงขนาด Open World จ๋านัก ที่เจ๋งกว่าคือมีระบบ Fast Travel เพื่อเลือกจุดเช็คพ้อยท์ ซึ่งในเกมจะเรียกกันว่า “พร” หรือ Grace (ชาว Dark Souls จะเรียกมันว่า Bonfire ก็ไม่ผิด) ไว้ใช้เป็นจุดพักและสามารถเชื่อมไปยังสถานที่ต่างๆ ของเกมได้ อีกทั้งยังมีดันเจี้ยนเล็กๆ ให้เข้าไปสำรวจและพิชิตอีกด้วย ถือว่าเกมนี้ค่อนข้างเปิดกว้างและให้อิสระในการเดินเส้นทางของเกมได้ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว 


สำหรับเกมเพลย์นั้นมันคือ Dark Souls ผสม Sekiro กล่าวคือ ตัวเกมมีความเป็น Dark Souls จ๋า แถมใส่การกระโดดแบบ Sekiro มาให้ด้วย ดังนั้นรูปแบบการแอ็กชั่นหรือปุ่มต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่นิดหน่อย ถ้าคนคุ้นชินกับซีรี่ส์ Dark Souls มาก่อน ก็บังคับได้ไม่ยาก วิธีการต่อสู้ก็หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยการใช้ดาบ เข้าไปฟันตรงๆ ซึ่งๆหน้า โจมตีผสมป้องกันด้วยโล่ หรือจะปัดป้องเพื่อทำให้ศัตรูเสียหลักแล้วสวนกลับด้วยท่าโจมตีแรงๆ รวมไปถึงการลอบเร้นเพื่อฆ่าเงียบๆ ก็สามารถทำได้หมด ซึ่งเอาจริงๆ ผมเองที่เป็นคนปัดป้องไม่เก่ง ต้องจับจังหวะกับมันค่อนข้างนานพอสมควรเลยทีเดียว โดยรวมความเป็น Dark Souls นั้นมาเต็มมากๆ แถมมีฟังค์ชั่นเรียกม้า Torrent หรือ อาชาวายุ มาขี่เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และทำการต่อสู้บนหลังม้าได้อีก ก็ทำให้มีความหลากหลายในเรื่องของแอ็กชั่นอยู่พอสมควร


ด้านศัตรูของเกมนี้ ยังมีความโหดหิน และท้าทายเหมือนเดิม แต่ละตัวจะต้องศึกษาการเคลื่อนไหวและแอ็กชั่นต่างๆ ของมันอย่างละเอียด เพื่อที่จะสามารถเอาชนะได้ และแน่นอน การตายซ้ำตายซากของผู้เล่น คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่ามันยาก และหัวร้อนจนต้องถอดใจ แต่สำหรับผมแล้ว มันคือการศึกษาและจดจำท่าของมันเพื่อใช้ในการรับมือและเอาชนะมันมากกว่า ก็ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะรู้จังหวะและการสู้กับมันจนชนะ เอาเป็นว่าใครชอบความยากสะใจ ท้าทายแบบสมัย Dark Souls ล่ะก็ คุณจะไม่ผิดหวังกับมันเลยจริงๆ 


ส่วนของกราฟิก บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง ใครชอบสไตล์งานศิลป์แบบ Dark Souls จะต้องชอบ Elden Ring แน่นอน การแสดงผลเรื่องแสง สี และเอฟเฟ็กต์นั้น ทำให้รู้สึกตื่นตะลึง กับความงาม และเฟรมเรตของมันก็รันที่ 60 fps นิ่งๆ เรียกว่าใครใช้เครื่อง PlayStation 5 ซื้อมาเล่นรับรองไม่ผิดหวัง


ปัญหาใหญ่ที่เจอสำหรับรอบ Network Test เท่าที่ลองเล่นมาจะเจออาการเฟรมเรทกระตุก เป็นบางช่วง โดยเฉพาะระหว่างเจอศัตรูหรือการเคลื่อนที่สำรวจ มันจะมีช่วงเฟรมเรตโดดๆ และหยุดกึ๊กไปแปบนึง ทำให้รู้สึกสะดุดและเสียจังหวะมาก ซึ่งพอเข้าใจได้ว่ามันเป็นรอบทดสอบ เพื่อหาบั๊กและความผิดปกติของเกมก่อนจะวางจำหน่ายจริง อันนี้ยอมรับได้ และหวังว่าทางผู้พัฒนาจะแก้ไขตรงจุดนี้ได้ 



แม้ว่าการทดสอบ Network Test จะเป็นช่วงเวลาที่สั้นและจำกัดมากๆ แต่ประสบการณ์ที่ได้ลองเล่นมานั้นถือว่าสนุกและท้าทายตามสไตล์ Dark Souls อยู่เหมือนเดิม และเชื่อว่าหลังจากที่ตัวเกมวางจำหน่ายแล้ว มันจะต้องสนุกและดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับตัวเกม Elden Ring จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 บนเครื่องคอนโซลทั้งยุคเก่าและใหม่ ( PlayStation 4-5, Xbox One-Series) และ PC สุดท้ายขอขอบคุณ Bandai Namco และ Sicom Amusement ที่เชิญให้ผมทดสอบและมอบประสบการณ์ดีๆ กับรอบ Network Test ด้วยนะครับ



กำลังโหลด...