Warframe : เทคนิคเลือกของใช้ยังไงให้เหมาะสมสำหรับมือใหม่

Playulti 01 Oct 2014, 11:10:30
ข้อมูล, เทคนิค (PC)

เพื่อนๆหลายคน ที่เป็นมือใหม่คงได้สัมผัสเกมนี้กันไปบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย แต่คงมีหลายคนที่ยังตัดสินใจเลือกศาสตราวุธคู่ใจยังไม่ได้ ซึ่งคราวนี้เราจะมาแนะนำให้มือใหม่ตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองได้ง่ายขึ้นกันครับ

 

ก่อนอื่น สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นช่วง Tutorial นั้นเกมจะให้คุณเลือกเล่น Warframe 1 จากใน 3ตัวที่มีให้ฟรีในตอนแรก ซึ่งแต่ละตัว จะมีคุณสมบัติดังนี้

 

Excalibur

 

Excalibur จัดว่าเป็น Warframe ที่สมดุลมากที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ด้วยความสามารถที่ครบครัน ทั้งด้านโจมตี และก่อกวนศัตรูได้ดีทำให้ Excalibur เป็น Warframe ยอดนิยมที่คนทั่วไปเลือกใช้มากที่สุดในช่วงแรก

 

Skill

 

SlashDash

Energy :25

Excalibur จะพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับฟาดฟันศัตรูทุกตัวตลอดเส้นทางที่พุ่งผ่านไป

ถือเป็นสกิลที่มีประโยชน์ในหลายๆสถานการณ์เราสามารถใช้เคลียร์ศัตรูง่ายๆ เพียงแค่ล่อไปยังจุดแคบๆแล้วปาดทีเดียวให้หมดกองได้ หรือจะใช้หนีออกจากการโดนล้อมก้ยังได้นับเป็นสกิลที่ค่อนข้างใช้ง่าย และใช้ได้บ่อย

 

RadialBlind

Energy :50

Excalibur จะยกดาบขึ้น แล้วระเบิดแสงออกมาทำให้ศัตรูรอบๆตาบอดไปชั่วขณะ

ถือเป็นสกิลที่ป่วนสุดๆไม่ว่าศัตรูจะเวลสูงแค่ไหน เจอสกิลนี้เข้าไปเป็นต้องยืนนิ่งๆให้เรายิงสบายๆเลยทีเดียว แถมยังทะลุกำแพงอีกต่างหากจะใช้ก่อนเปิดฉากโจมตี หรือใช้เพื่อถ่วงเวลาตอนที่ช่วยเพื่อนที่กำลังล้มอยู่ก็ได้ ของเค้าดีจริงๆ

 

SuperJump

Energy :10

Excalibur จะกระโดดได้สูงกว่าใครๆ

ด้วยสกิลนี้ จะทำให้ไปยังพื้นที่ๆศัตรูเข้าถึงลำบาก หรือจะกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางหรือแม้แต่ทางขาดที่ใครๆก็ผ่านไม่ได้ แต่เรากระโดดข้ามไปได้เลยสามารถใช้คอมโบกับสกิลอื่นๆได้ เพื่อเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ

 

RadialJavelin

Energy :100

Excalibur จะปักดาบของเขาลงพื้นและปล่อยดาบออกมาสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงรอบตัวเขา

นับเป็นสกิลที่มีความรุนแรงสูงมาก เพราะดาบ 1เล่ม จะมีความแรงอยู่ที่ 1000Damage และศัตรู 1 ตัว สามารถโดนมากกว่า 1 เล่มได้ถ้ากดใช้แบบประชิดตัว อาจจะโดนมากกว่า 3 เล่มพร้อมกันเลยทีเดียวแถมถ้าศัตรูตายเพราะสกิลนี้ ศพจะกระเด็นไปปักติดกับกำแพงเลยน่ากลัวจริงๆ

(Tip : ถ้ามีกำแพงหรือสิ่งกีดขวางอยู่สกิล RadialJavelin อาจจะไปปักที่กำแพงก่อนที่จะได้ทำความเสียหายใส่ศัตรูให้ลองคอมโบสกิล โดยการกด SuperJump ก่อนที่จะใช้ RedialJavelin เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการโจมตีแบบไม่มีสิ่งกีดขวางและเพิ่มโอกาสโจมตีศัตรูที่อยู่รอบตัว)

 

 

Mag

 

Mag ถือว่าเป็น Warframe สายซัพพอร์ทที่มีสกิลโจมตีเป็นวงกว้าง(กว้างจริงๆนะ) Mag สามารถเติม Shield ให้เพื่อนได้ยามฉุกเฉิน และสามารถขัดแข้งขัดขาศัตรูได้ดีมากและเมื่อ Mag ได้ประมือกับพวก Corpus เมื่อไหร่เธอจะดูโหดร้ายและน่ากลัวขึ้นมาทันที

 

Skill

 

Pull

Energy :25

Mag จะกระชากทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าเข้ามาหาตัวเอง พร้อมกับสร้างความเสียหาย

ต้องขอบอกเลยว่า ตั้งแต่เล่นเกมนี้มาสกิลนี้เป็นสกิลที่ใช้ Energy น้อยแต่ระยะกว้างที่สุดในเกมนี้แล้วล่ะครับเพราะทุกอย่างที่เรามองเห็นในหน้าจอ จะถูก Mag กระชากหัวทิ่มพื้นหมดเลย (แต่ไม่มีผลกับบอสนะ) ถือเป็นสกิลขัดแข้งขัดขาศัตรูที่กว้างมากแถมถ้าใช้กับพวก Corpus ก็จะยิ่งแรงขึ้นไปอีก

 

ShieldPolarize

Energy :50

Mag จะระเบิด Shield ของศัตรูรอบๆตัวทิ้งพร้อมสร้างความเสียหายให้กับศัตรูรอบๆข้างและจะเพิ่ม Shield ให้เพื่อนในปาร์ตี้

เป็นสกิลที่สร้างความเสียหายและซัพพอร์ทเพื่อนไปได้พร้อมๆกัน ฟังดูอาจจะเป็นสกิลที่สุดยอดแต่ศัตรูที่มี Shield ให้ระเบิดก็มีแต่พวกเผ่า Corpus กับบอสบางตัวซึ่งถ้าเราไปทำภารกิจที่ดาวอื่นที่ไม่มี Corpus สกิลนี้ก็จะเหลือประโยชน์แค่เพิ���ม Shield ให้เพื่อนเท่านั้นแต่ถ้ากับบอสที่มี Shield หนาๆล่ะก็ กดคลิกเดียว เหลือ 0แน่นอน บอสที่ไม่มี Shield ก็เท่ากับว่ามันต้องรับลูกปืนเข้าไปเน้นๆเลยทีเดียว

 

BulletAttractor

Energy :75

Mag จะสร้างบอลแม่เหล็กรอบๆตัวเป้าหมายซึ่งจะดูดกระสุนทุกอย่างที่ผ่านบอลแม่เหล็กนี้เข้าหาเป้าหมายทั้งหมด

เป็นสกิลที่เหมาะแก่การล่าบอส และเหมาะมากๆหากคุณยิงปืนไม่แม่น (อิอิ) ซึ่งบอลแม่เหล็กที่ว่านี่จะดูดกระสุนทุกอย่าง เข้าไปสร้างความเสียหายใส่เป้าหมายทันทีคุณสามารถกดใช้ใส่ศัตรู แล้วแอบยิงใส่บอลเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนสวนได้สบายๆ แต่ควรระวังหากจะใช้กับบอสเพราะบอสบางตัว ต้องยิงให้โดนเฉพาะจุดอ่อนเท่านั้นจึงจะสร้างความเสียหาย แต่สกิลนี้จะทำให้คุณสร้างความเสียหายใส่จุดอ่อนไม่ได้จึงควรระวังก่อนกดใช้งาน

 

Crush

Energy :100

Mag จะควบคุมพลังแม่เหล็กรอบๆตัวทำให้ศัตรูทั้งหมดลอยขึ้น และบดขยี้ศัตรูทิ้ง

ฟังดูเหมือนว่าสกิลดูโหดร้ายแต่จริงๆแล้วกลับมี Damage ที่ไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่หากไม่ได้ใช้กับพวก Corpus แต่ก็มีประโยชน์ตอนโดนล้อมเราสามารถกดใช้เพื่อทำให้ศัตรูทั้งหมด ลอยขึ้น แล้วก็ระเบิดให้ล้มลงส่งไม้ให้เพื่อนๆจัดการกระทืบต่อซะ สกิลนี้ค่อนข้างใช้เวลาร่ายนานหากมีศัตรูที่ยืนอยู่นอกระยะสกิล อาจจะทำให้โดนยิงฟรีจนล้มลงได้และสกิลเองก็ไม่มีผลกับบอสซะด้วยสิ

 

 

Volt

 

Volt จัดอยู่ในกลุ่มสนับสนุนอยู่แนวหลังเหมาะสำหรับคนที่ชอบยืนหรอย ปล่อยเพื่อนไล่ตบศัตรูไปส่วนเราก็ยืนยิงห่างๆ เพราะตัว Volt เองก็ไม่ได้มีพลังป้องกันอะไรมากนัก การยืนแลกกับศัตรูจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตรายแต่ถ้าได้อยู่ในพื้นที่ๆเป็นอาคารโล่งๆเมื่อไหร่ Volt จะน่ากลัวขึ้นมาทันที

 

Skill

 

Shock

Energy :25

Volt จะปล่อยไฟฟ้าออกมาใส่ศัตรูและมันยังสามารถชิ่งไปหาศัตรูที่อยู่ใกล้ๆต่อได้อีกด้วย

ถือเป็นสกิลที่ใช้ง่ายและด้วยผลของมันที่สามารถชิ่งจากเป้าหมายหนึ่งไปยังอีกเป้าหมายหนึ่งได้ทำให้ง่ายต่อการโจมตีศัตรูที่แอบอยู่หลังกำแพงหรือสิ่งกีดขวางแถมเราสามารถเล็งใส่กำแพง เพื่อให้ชิ่งใส่เป้าหมายบริเวณนั้นได้เลยโดยไม่ต้องเล็งใส่ศัตรูโดยตรง แถมยังพ่วงสถานะไฟดูดอีกด้วยใครอยากเห็นศัตรูเต้นระบำ ก็ลองกดดูเลย

 

Speed

Energy :25

Volt จะเพิ่มความเร็วให้เพื่อนทุกคนในระยะสกิลส่งผลให้วิ่งเร็วขึ้นมากและยังเพิ่มความเร็วในการโจมตีแบบ Melee อีกด้วย

สกิลบัพที่จะทำให้เพื่อนๆของคุณ เปิดไฟท้ายกลายเป็นนักแข่งรถ F-1 (เหมือนจริงๆนะ) แถมยังพ่วงด้วยเพิ่มความเร็วโจมตีใครชอบไล่ฟันศัตรูตามทาง คงจะหวดกันแทบอาวุธหลุดมือกันเลยทีเดียวเป็นสกิลที่เหมาะสำหรับการทำภารกิจที่ต้องใช้ความเร็วมากๆเลยล่ะ

 

ElectricShield

Energy :50

Volt จะสร้างโล่ไฟฟ้าขึ้นมาป้องกันการโจมตีของศัตรูด้านหน้า

นับเป็นสกิลป้องกันที่ดีเยียมมากๆด้วยความที่มันสามารถป้องกันความเสียหายได้ 100% (ถ้าศัตรูไม่อ้อมมายิงเรานะ) โดยที่มันจะป้องกันได้เรื่อยๆจนกว่าสกิลจะหมดเวลาเราสามารถกดใช้หลายๆอันพร้อมกัน เพื่อสร้างโล่ป้องกันหลายๆด้านได้และที่สำคัญคือ เมื่อเรายิงปืนผ่านโล่จะช่วยเพิ่มความเสียหายธาตุไฟฟ้าอีก 50% เลยทีเดียวเรียกได้ว่า ตั้งป้อมยิงสวนกันแบบไม่ต้องกลัวใครเลย

 

Overload

Energy :100

Volt จะปลดปล่อยสนามไฟฟ้าออกมาสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

เป็นสกิลที่ทำ Damage เป็น AoE และจะสร้างความเสียหายทุกวินาทีเป็นระยะเวลา 4 วินาทีสูงสุด และศัตรู จะติดสถานะไฟดูดอีกด้วยแค่ไม่ใช่แค่นั้น ความน่ากลัวของสกิลนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อในบริเวณนั้น มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากซึ่งจะส่งผลให้สกิล Overload ระเบิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม และยังเพิ่มระยะเวลาและความไกลของสกิลตามจำนวนเครื่องไฟฟ้าอีกด้วยแต่ Effect นี้จะใช้ในบริเวณนั้นได้แค่ครั้งเดียว (เพราะมันพังไปแล้ว) หากจะใช้ใหม่ก็ต้องตามหาเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่

(Tip : เครื่องใช้ไฟฟ้าในเกมนี้มีอยู่ทุกที่ แต่ที่ๆจะใช้งาน Overload ได้อย่างคุ้มค่านั้นมีอยู่ไม่กี่ที่ ควรจำตำแหน่งเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ดีแล้วเลือกใช้สกิลในจุดที่คิดว่าเ���็นศูนย์กลางเครื่องใช้ไฟฟ้ามากที่สุดเพื่อเร่ง Damage ออกมาให้เต็มที่)

 

 

หลังจากที่เลือก Warframe กันได้แล้วเราก็จะได้ฝึกใช้สกิลกัน ซึ่งก็ง่ายๆเพียงแค่กดสกิลตามที่ Tutorial บอกไปเรื่อยๆก็ผ่านแล้ว หลังจากนั้นเราก็จะได้มาเลือกอาวุธ Melee กัน

 

Skana

 

1 ในอาวุธเบสิคที่ใช้ค่อนข้างง่าย และสมดุลความเร็วและระยะโจมตีปานกลางมีจุดเด่นอยู่ที่ค่า Slash ซึ่งจะส่งผลดีเมื่อต้องสู้กับศัตรูเผ่า Infestation

 

MK1-Bo

MK1-Bo เป็นอาวุธพื้นฐานที่มีระยะโจมตีค่อนข้างกว้างกว่าอาวุธชิ้นอื่นที่มีให้เก็บและมีพลังโจมตีที่เด่นในด้านของ Impact ซึ่งจะส่งดีเมื่อสู้กับศัตรูที่มี Shield อย่างพวก Corpus

 

MK1-Furax

MK1-Furax เป็นอาวุธ Melee ที่มีระยะโจมตีที่สั้นที่สุดจากทั้ง3 ชิ้น แต่ก็มีการออกท่าโจมตีที่รวดเร็วกว่าอาวุธชิ้นอื่นมีจุดเด่นเป็น Impact เช่นกัน

 

ในส่วนของอาวุธ Melee นี่ผมว่าจะชิ้นไหนก็โอทั้งนั้นนะ เพราะยังไงแรกๆ เดี๋ยวก็เปลี่ยนแล้วแถมเจ้าอาวุธทั้ง 3 ชิ้นนี้ก็มี Damage ใกล้เคียงกันอีกซึ่งยังไม่ค่อยส่งผลในช่วงต้นเกมเท่าไหร่

 

 

หลังจากเลือกอาวุธ Melee ที่ถูกใจแล้วเกมจะสอนให้คุณใช้อาวุธรูปแบบต่างๆ และหลังจากนั้นเกมก็จะให้คุณจะได้เลือกอาวุธรองมาใช้ 1อย่าง (Secondary Weapon)

 

Lato

Lato เป็นปืนพกที่สมดุลในทุกๆด้านทั้งความแรง ความเร็ว ความแม่นยำเป็นปืนที่เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์

 

MK1-Kunai

MK1-Kunai ถือเป็นอาวุธที่โจมตีแรงที่สุดในบรรดาอาวุธรองที่มีให้เก็บแต่ต้องแลกมาด้วยความเร็วในการโจมตีที่ค่อนข้างช้าและการโจมตียังเป็นรูปแบบ Projectile ซึ่งจะส่งผลให้ขณะโจมตีวิถีของ MK1-Kunai จะค่อยๆตกลงตามแรงดึงดูดแต่ถ้าชินเมื่อไหร่ก็ค่อนข้างเป็นอาวุธที่พึ่งพาได้เลย MK1-Kunai มีจุดเด่นอยู่ที่ค่า Puncture ซึ่งจะส่งผลให้โจมตีศัตรูที่มีค่า Armor สูงๆอย่างพวก Grineer ได้รุนแรง

 

MK1-Furis

จากทั้ง 3 ชิ้น MK1-Furis เป็นอาวุธที่โจมตีได้เร็วที่สุดมีจำนวนกระสุนมากที่สุด แต่ก็แลกมาด้วยความแม่นยำที่ต่ำที่สุดด้วยเช่นกัน MK1-Furis จึงเป็นปืนที่เหมาะกับการวิ่งไปยิงไปมากกว่า

 

หลังจากที่คุณเลือกอาวุธรองที่ถูกใจ้ได้แล้วเกมก็จะส่งศัตรูมาให้เราทดลองปืนจำนวนหนึ่ง และเมื่อเราเดินไปตามทางเรื่อยๆจะเกิดเหตุการณ์ที่ยานที่กำลังมารับเรา ถูก Captain Vor สอยร่วงทำให้เราต้องสู้กับมัน โดยเริ่มมา Captain Vor จะปล่อยพลังใส่เราตลอดให้เรากดป้องกัน (คลิกขวาขณะถือ Melee) ค้างเอาไว้เพื่อป้องกันความเสียหาย แล้ววิ่งเข้าไปหาแต่เมื่อไปถึง CaptainVor จะเทเลพอร์ทหนีเราไปให้เราตามไปเก็บ Datamass แล้วเอาไป Hack ที่เครื่องตรงจุดที่ Lotus บอกเอาไว้ซึ่งระหว่างนั้น เราจะโดน CaptainVor ลอบโจมตีพร้อมกับลูกน้องของมันอยู่เรื่อยๆให้วิ่งหลบ สลับกับป้องกันให้ดี

หลังจาก Hack เสร็จทางก็จะเปิดออก ให้วิ่งไปตามทางเกมจะสอนให้เราใช้ Channeling ซึ่งเป็นการโจมตีโดยใช้ Energy ที่เรามีเพิ่มความแรงเข้าไปอีก และหลังจากนั้น ก็จะสอนการวิ่งไต่กำแพงเพื่อใช้ข้ามหน้าผาต่างๆเสร็จแล้วเราก็จะได้เลือกอาวุธหลัก (PrimaryWeapon) กันซะที

 

MK1-Braton

MK1-Braton เป็นปืนที่มีความสมดุลทุกด้านที่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ แถมยังโจมตีได้เร็วที่สุดจากทั้ง 3ปืนที่มีให้อีกด้วย

 

MK1-Paris

MK1-Paris เป็นอาวุธประเภทธนูที่มีความแรงสูงที่สุดในบรรดาอาวุธที่มีให้เป็นอาวุธที่มีค่า Puncture สูงมากและยังสามารถกดคลิกซ้ายค้าง เพื่อชาร์จเพิ่มความแรงและความแม่นยำได้สามารถยิงทะลุศัตรูไปโดนตัวที่อยู่ด้านหลังได้เลยทีเดียวและยังจัดอยู่ในหมวดอาวุธประเภท Silent ที่ทำให้เวลายิงศัตรูแล้วจะไม่เกิดเสียงให้ศัตรูรู้ตัว เช่นเดียวกับ MK1-Kunai เป็นอาวุธที่เหมาะแก่การซุ่มยิงเงียบๆอยู่แนวหลัง

 

MK1-Strun

MK1-Strun เป็นปืนประเภทลูกซองที่เมื่อยิงออกไปแล้วกระสุนจะกระจายออก สร้างความเสียหายเป็นรูปกรวยซึ่งถ้าหากยิงโดนศัตรูในระยะประชิด จะสร้างความเสียหายได้สูงมากไม่แพ้ MK1-Paris เลยทีเดียวแต่ MK1-Strun เป็นปืนที่ยิงได้ช้าและมีความแม่นยำต่ำ ทำให้ไม่เหมาะที่จะยิงจากระยะไกลแถมยังรีโหลดค่อนข้างนาน หากคิดจะใช้ ควรจะสลับอาวุธเก่งๆสักหน่อยมีจุดเด่นอยู่ที่ค่า Impact

 

หลังจากที่เลือกได้แล้วก็ไปทดสอบปืนกับพวกศัตรูกัน หลังจากที่ยิงไปได้สักพักเกมก็จะสอนให้เราสลับอาวุธระหว่างอาวุธหลักกับรอง (ปุ่ม F) แล้วก็จะสอนให้เรา Hack เพื่อขโมยยานด้วยการแก้ Puzzle หลังจากนั้นเราจะต้องรอจนกว่าเวลาจะหมด จึงจะหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย

 

หลังจากนี้ก็จะเป็นเนื้องเรื่องที่เราต้องไปปลดล็อคและเรียนรู้การทำงานส่วนต่างๆของยาน Liset ทีละส่วนแล้วครับและของทุกๆอย่างที่เราเลือกมาในตอน Tutorial ก็จะกลายเป็นของเราทั้งหมด

 

 

จบในส่วนของการเลือก Warframe และอาวุธเบื้องต้นกันไปแล้วนะครับหวังว่าคงจะมีประโยชน์กับมือใหม่หัดเล่น ไม่มากก็น้อยขอบคุณที่อ่านจนจบครับ แล้วเจอกันใหม่ไกด์หน้าครับ

 

 

ติดตามผลงานต่อได้ที่ FanpageWarframeTH นะครับ

กำลังโหลด...