![]()
"เกมมันเล่นฟรี จะเติมเงินทำไม ไร้สาระ!" เสียงห้วน ๆ ของเด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่งดังขึ้นมาในร้านอินเตอร์เน็ต เขารัวนิ้วคลิ๊กเมาส์อย่างรวดเร็วเพื่อลั่นไกกระสุนปืนสุดรักของเขาในเกม Special Force เกมฮิตในสมัยนั้น ข้าง ๆ เขา ผู้เขียนนั่งพิมพ์งานของโรงเรียนอยู่ บทสนทนาที่เราพูดขึ้นมาก่อนสนทนาประโยคนี้เกิดขึ้นเพราะเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง ถล่มเติมเงินในเกมที่เขาเล่นอยู่อย่างหนักหน่วง ทำให้การกระทำนี้กลายเป็นประเด็นสนทนาในร้านอินเตอร์เน็ตจนได้ ความคิดเห็นของผู้เขียนกับเพื่อนผู้รักเกม FPS ดั่งดวงใจนั้นตรงกันอย่างไม่ต้องสงสัย ประโยคสุดตลกร้าย "จะเติมเงินทำไม" จึงออกมาจากปากของเราสองคน...
เรื่องราวในสมัยเด็กถูกเก็บเป็นความทรงจำไว้จนถึงวันนี้ วันที่สองมือของผู้เขียนเติบโตขึ้นพร้อมความคิดและทัศนคติที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องนึกย้อนความหลังสมัยก่อน เหตุใดตัวเรานั้นต้องเอ่ยประโยคที่ตัวเองเกลียดที่สุดในเวลานั้น มีคนเคยบอกผู้เขียนไว้ว่า ในช่วงเวลาที่เราเติบโตขึ้น เมื่อเราหันมองย้อนกลับไปสู่อดีต เราจะหัวเราะและยอมรับมันได้อย่างเต็มภาคภูมิ ผู้เขียนคงหัวเราะได้ แต่คงไม่มีความสุขกับความไร้เดียงสาของตัวเองเท่าไหร่นัก ไม่ใช่เพราะความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่เพราะเราไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าทำร้ายสิ่งที่เรารักไปเสียแล้ว...
![]()
คุณใช้ชีวิตแบบไหน?
เงินคือชีวิต แต่ชีวิตมีค่ามากกว่าเงิน สัจธรรมนี้คุณอาจจะมองไม่เห็นหากคุณอยู่ในภาวะตาบอดทางนามธรรม กล่าวได้ว่าเงินนั้นจำเป็นในการดำรงชีวิต และการดำรงชีวิตสำคัญมากกว่าเงิน คุณมองสิ่งมีค่าเป็นสิ่งเสียมิได้ แต่คุณกลับมองว่าชีวิตคุณเสียได้เพราะเงิน การทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายทุกวี่วันเพื่อแลกสิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณดำรงอยู่ได้ แลกกับการสูญเสียพลังชีวิตของคุณที่ดำรงมาในอดีต นั่นทำให้คุณระวังทุกย่างก้าวในการจ่ายพลังงานชีวิต จนคุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องดำรงชีวิตอยู่ได้โดยใช้มันน้อยที่สุด ผิดแล้ว... นั่นคือคุณกำลังปิดกั้นตัวเองต่อการเติมพลังงานชีวิตของคุณ ชีวิตคนเราไม่ใช่กระดาษ มันจึงมีหลายด้าน หากการเล่นเกมเป็นความสุขของคุณ การจ่ายเพื่อความสุขไม่ใช่เรื่องแย่ หากแต่มันคือสิ่งที่คุณควรได้รับ
"หากการเล่นเกมเป็นความสุขของคุณ การจ่ายเพื่อความสุขไม่ใช่เรื่องแย่ หากแต่มันคือสิ่งที่คุณควรได้รับ"
![]()
![]()
เกมคือธุรกิจ
ความเป็นจริงนั้นมีสิ่งที่เรียกว่าธุรกิจแฝงตัวอยู่เสมอ เกมคือความบันเทิง และความบันเทิงก็คือธุรกิจ สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะอุปสงค์ของพวกคุณเอง ไม่ว่าความบันเทิงรูปแบบไหนก็ตามแต่ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะอยากสนองความต้องการของ "ลูกค้า" อย่างคุณ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรียกว่าอุปทานจึงเกิดขึ้น นั่นก็คือความอยากขาย อยากเสนอ อยากปรนเปรอสิ่งที่คุณอยากได้แก่คุณ สาเหตุที่ผู้เขียนกล่าวเอาไว้ตอนต้นเรื่องว่า "เราทำร้ายสิ่งที่เรารัก" นั่นคือ เมื่อ "อุปทาน" ของคุณลูกค้าทั้งหลายลดลง "อุปสงค์" ของผู้ผลิตก็ต้องปรับตัวลดลงตามไปด้วย นั่นหมายถึงว่า เมื่อเราเล่นเกมโดยที่ไม่จ่ายเลยสักบาท สุดท้ายเกมก็จะปิดตัวลง ง่ายดีใช่ไหม?
"เมื่อเราเล่นเกมโดยที่ไม่จ่ายเลยสักบาท สุดท้ายเกมก็จะปิดตัวลง ง่ายดีใช่ไหม?"
![]()
![]()
กฏแห่งกรรมยังใช้ได้ดีอยู่เสมอ
ตามหลักศาสนาพุทธกล่าวไว้ว่า "ทำอย่างไรได้อย่างนั้น" คำกล่าวนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยเพราะมันคือหลักความจริง หาใช่ความเชื่อ ในโลกของเกมก็เหมือนกัน ผู้เขียนอธิบายไปแล้วว่าหากเราไม่คิดที่จะจ่ายเงินสักบาทจะเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่ได้กล่าวถึงผลตอบแทนหากคุณจ่ายเงินให้สิ่งที่คุณรัก อย่างแรกที่ง่ายที่สุดเลยคือคุณจะได้รับความสุขทางใจในระยะเวลาสั้น ๆ มากกว่านั้นคือเกมที่คุณเป็นลูกค้าอยู่ จะมีกำลังใจพัฒนาเกมให้ดีขึ้นกว่าเก่าเพราะมีลูกค้าอย่างคุณรอเขาอยู่ มากกว่านั้นอีกคือผู้ให้บริการเล็งเห็นว่าลูกค้าอย่างเรา ๆ นั้นตื่นตัวและให้การสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา อาจจะนำเกมฟอร์มยักษ์จากต่างประเทศมาเปิดให้บริการ และที่มากกว่านั้นอีกหน่อยคือมันจะเกิดการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการเกม ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ คือผู้บริโภคอย่างเรานั่นเอง
"จะเกิดการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการเกม ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ คือผู้บริโภค"
![]()
![]()
คุณช่วยผม ผมช่วยคุณ
คุณเป็นมนุษย์คนหนึ่งบนโลก ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งบนโลกเหมือนกัน หากคุณกำลังจ่ายเงินให้กับพวกเรา เราขอบคุณพวกคุณมาก หากคุณไม่ทราบ เราทั้งหมดบนโลกผูกกันมาตั้งแต่ตอนที่เราเกิดแล้ว เราดำรงชีวิตจากพลังงานที่ผู้อื่นส่งมอบให้ผ่านสิ่งของต่าง ๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ในฐานะที่ผมเป็นบุคลากรของวงการเกม เราดีใจที่คุณจ่ายให้เรา ในชีวิตที่ผ่านมา เราก็จ่ายให้คุณเหมือนกัน หากคุณเป็นเชฟทำอาหาร แน่นอนว่าเราต้องเคยรับประทานอาหารของคุณ หากคุณเป็นพนักงานโรงแรม แน่นอนว่าเราก็ต้องเคยพักโรงแรมของคุณ ชีวิตของคนทั้งโลกผูกกันไว้เพราะเราทำหน้าที่ของพวกเราเอง เราสูญเสียพลังของเราไปก็จริง แต่สุดท้าย พลังที่เราเสียไปนั้นจะส่งผ่านผลผลิตของเราไปสู่ผู้อื่น เหมือนที่เรารับผลผลิตของเขาไว้เช่นกัน
"เราทั้งหมดบนโลกผูกกันมาตั้งแต่ตอนที่เราเกิดแล้ว เราดำรงชีวิตจากพลังงานที่ผู้อื่นส่งมอบให้ผ่านสิ่งของต่าง ๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน"
![]()
![]()
เพื่อน... หากคุณได้อ่านบทความนี้อยู่ คุณเป็นผู้ที่จุดประกายความคิดของผมในคืนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงความไร้เดียงสาในวัยเด็ก แต่นั่นทำให้ผมเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเลยว่า ทุกอย่างในโลกนั้นเชื่อมโยงถึงกันและกันทั้งหมด หากเราหวังดีต่อกัน หากเราคิดเห็นใจคนอื่นสักนิด ไม่สุ่มเอาเกมที่หยุดอัพเดตแล้วมาเปิดให้บริการ ไม่ลอยแพลูกค้า จ่ายเงินให้เกมที่คุณรัก ไม่เอาเปรียบผู้อื่นด้วยการใช้โปรแกรมช่วยเล่น สุดท้ายแล้ว พวกเราทั้งหมดก็จะชนะไปด้วยกัน เจอกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ...
![]()
